ปิดเมนู

สาระน่ารู้: วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน


คีย์เวิร์ด: การดูแลแบตเตอรี่ ,วิธีดูแลแบตรถยนต์, ดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ทน, เคล็ดลับแบตเตอรี่ ,ปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ รถสตาร์ทไม่ติด, แบตหมดเร็ว, แบตเสื่อมไว การตรวจสอบแบตเตอรี่ ,เช็คแบตรถยนต์, ตรวจน้ำกลั่นแบตเตอรี่, ตรวจขั้วแบตเตอรี่, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ,แบตรถยนต์อยู่ได้นานแค่ไหน, เปลี่ยนแบตเมื่อไหร่ดี,การชาร์จและการเสื่อมของแบต ชาร์จแบตรถยนต์ยังไง, แบตเตอรี่เสื่อม, วิธีถนอมแบตรถยนต์
แบตเตอรี่รถยนต์คือหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้รถของคุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างราบรื่น หากละเลยการดูแล อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดหรือมีปัญหาในช่วงเวลาคับขันได้ ดังนั้น การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนควรใส่ใจ

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

แบตเตอรี่รถยนต์คือหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้รถของคุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างราบรื่น หากละเลยการดูแล อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดหรือมีปัญหาในช่วงเวลาคับขันได้ ดังนั้น การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของรถทุกคนควรใส่ใจ

 วิธีการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกต้อง

  1. ตรวจเช็กระดับน้ำกลั่น
    สำหรับแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ควรตรวจระดับน้ำกลั่นให้พอเหมาะ อย่าปล่อยให้แห้ง เพราะอาจทำให้แผ่นธาตุเสียหายและแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

  2. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่
    ขั้วแบตเตอรี่อาจมีคราบเกลือหรือสนิม ซึ่งส่งผลต่อการนำไฟ ควรทำความสะอาดด้วยแปรงและน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา

  3. สตาร์ทรถเป็นประจำ
    หากคุณไม่ได้ใช้รถบ่อย ควรสตาร์ทรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ไดชาร์จทำงานและป้องกันแบตเสื่อม

  4. หลีกเลี่ยงการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อดับเครื่อง
    การเปิดไฟหน้ารถ วิทยุ หรือแอร์ขณะเครื่องยนต์ไม่ทำงาน จะดึงไฟจากแบตโดยตรงและทำให้แบตหมดเร็ว

เปลี่ยนแบตเมื่อครบอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปอายุแบตเตอรี่อยู่ที่ 1.5 – 3 ปี หากมีอาการสตาร์ทยากหรือไฟหน้าอ่อน ควรตรวจสอบและเปลี่ยนให้ทันเวลา