สาระน่ารู้: วิธีเก็บรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สำรองให้ปลอดภัย

วิธีเก็บรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สำรองให้ปลอดภัย

การ เก็บรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สำรองให้ปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก หากดูแลอย่างถูกวิธี แบตเตอรี่ก็จะพร้อมใช้งานในยามจำเป็นเสมอ

วิธีเก็บรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สำรองให้ปลอดภัย

แบตเตอรี่รถยนต์สำรอง เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ควรมีติดรถไว้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น รถสตาร์ทไม่ติดหรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า แต่การเก็บรักษาอย่างไม่ถูกวิธี อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว เกิดไฟรั่ว หรือแม้แต่เสี่ยงต่อการระเบิดได้ หากคุณมีแบตเตอรี่สำรองไว้ที่บ้านหรือในรถ นี่คือวิธีเก็บรักษาที่ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน

1. เก็บในที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนจัด

ควรหลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง หรืออับชื้น เช่น ในรถที่จอดตากแดดเป็นเวลานาน หรือในห้องที่ไม่มีการระบายอากาศ ความร้อนจะทำให้สารเคมีภายในเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และอาจทำให้แบตเตอรี่รั่วหรือพองตัวได้

2. วางให้ห่างจากแหล่งประกายไฟ

แบตเตอรี่มีไอระเหยที่ไวไฟ ควรเก็บให้ห่างจากเปลวไฟ หรืออุปกรณ์ที่อาจเกิดประกาย เช่น เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือแม้แต่ปลั๊กไฟที่มีปัญหา เพื่อป้องกันอันตรายจากการลุกไหม้

3. ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

แบตเตอรี่ที่เก็บไว้นานจะคายประจุออกเรื่อยๆ ควรตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากแรงดันต่ำเกินไป ควรทำการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จที่เหมาะสม เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมดและไม่สามารถใช้งานได้เมื่อจำเป็น

4. ไม่วางบนพื้นปูนโดยตรง

การวางแบตเตอรี่บนพื้นปูนหรือพื้นโลหะโดยไม่มีแผ่นรอง อาจทำให้เกิดการนำไฟฟ้าหรือดูดความชื้นเข้าสู่แบตเตอรี่ ควรวางบนแผ่นไม้หรือยางเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

5. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่

หากแบตเตอรี่มีคราบขาวหรือสนิมที่ขั้ว ควรทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดาอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กรดภายในหกเลอะหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเมื่อใช้งาน

สรุป

การ เก็บรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สำรองให้ปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก หากดูแลอย่างถูกวิธี แบตเตอรี่ก็จะพร้อมใช้งานในยามจำเป็นเสมอ