ปิดเมนู

สาระน่ารู้: แบตเตอรี่รถกระบะมี 3 ประเภท

แบตเตอรี่รถกระบะมี 3 ประเภท

แบตเตอรี่รถกระบะมี 3 ประเภท


คีย์เวิร์ด: แบตเตอรี่รถกระบะ,แบตเตอรี่รถยนต์,บริการเปลี่ยนแบตนอกสถานที่,ร้านแบตเตอรี่ใกล้ฉัน , แบตเตอรี่ใกล้ฉัน , แบตเตอรี่นอกสถานที่ , แบตเตอรี่ดอนเมือง , แบตเตอรี่ราคาถูก , แบตเตอรี่รถยนต์, บริการแบตเตอรี่ครบวงจร, บริการติดตั้งแบตเตอรี่ที่บ้าน, เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์, การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสม, ตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์, รับประกันแบตเตอรี่
การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์กระบะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ต่อไปนี้คือแบตเตอรี่จาก 5 ยี่ห้อยอดนิยมที่เหมาะสำหรับรถยนต์กระบะ พร้อมรายละเอียด

แบตเตอรี่รถยนต์กระบะมีกี่ประเภท ต่างกันยังไง?

แบตรถกระบะมีหลายประเภท ซึ่งแบ่งตามลักษณะการใช้งานและการออกแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละยี่ห้อและรุ่นของรถกระบะ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีประเภทหลัก ๆ ดังนี้:

  • แบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery)

 แบตเตอรี่ชนิดนี้เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กรดกำมะถันผสมกับน้ำกลั่น และควรหมั่นดูแลตรวจเช็คเป็นระยะ

ข้อดี

    • ราคาถูก แต่ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แห้งหรือมีการเสื่อมสภาพ
    • อายุการใช้งานนาน หากดูแลถูกวิธี

ข้อเสีย

    • ต้องหมั่นตรวจเช็ค
    • อาจมีคราบขึ้นเกลือขึ้นตามขั๋วแบต
    • การจ่ายกระแสไฟไม่คงที่เท่าพวกแบตแห้งกับกึ่งแห้ง
  • แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Battery)

 แบตแห้งเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นและแทบไม่ต้องบำรุงรักษาเลย มีการปิดผนึกแน่นหนาและมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำกรด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน

ข้อดี

    • ไม่เติมน้ำกลั่น
    • จ่ายไฟเสถียน
    • ไม่เกิดคราบเกลือ

ข้อเสีย

    • ราคาสูง
    • ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
  • แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free Battery)

     เป็นแบตเตอรี่ที่อยู่ระหว่างแบตเตอรี่น้ำ (แบตน้ำกลั่น) และแบตแห้ง (Sealed Battery) มีคุณสมบัติที่รวมข้อดีของทั้งสองแบบ โดยมีน้ำกรดอยู่ภายในแต่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยเหมือนแบตน้ำกลั่นทั่วไป

ข้อดี

    • ดูแลรักษาได้ง่ายกว่าแบบเติมน้ำกลั่น
    • อายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตแห้งบางประเภท  เนื่องจากสามารถเติมน้ำกลั่นได้เมื่อจำเป็น

ข้อเสีย

    • อาจต้องมีการตัวเช็คน้ำกลั่น
  • วิธีเลือกแบตเตอรี่รถยนต์กระบะให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์กระบะให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ควรพิจารณาหลายปัจจัยดังนี้:

1. เลือกแบตเตอรี่ตามขนาด (ขนาดของแบตเตอรี่)

  • แบตเตอรี่รถกระบะจะมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกันตามยี่ห้อและรุ่นของรถ เช่น ขนาด 12V หรือ 24V ซึ่งควรเลือกแบตเตอรี่ที่ตรงกับขนาดที่ระบุในคู่มือรถของคุณ

  • การเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดเหมาะสมกับรถจะช่วยให้การใช้งานแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดปัญหาจากการติดตั้งหรือการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม

2. เลือกแบตเตอรี่ตามประเภทของรถยนต์

  • หากเป็นรถกระบะที่ใช้งานหนัก เช่น บรรทุกของหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery) หรือ แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free Battery) ที่ให้พลังงานสูงและทนทานต่อการใช้งานหนักมากว่าแบตน้ำ

  • สำหรับรถกระบะที่ใช้งานทั่วไป ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการขับขี่ปกติ เช่น แบตเตอรี่แบบแห้งหรือแบตเตอรี่กึ่งแห้ง

3. คำนึงถึงการจ่ายกระแสไฟ (Cold Cranking Amps - CCA)

  • CCA เป็นค่าที่บ่งชี้ถึงความสามารถในการจ่ายกระแสไฟตอนเริ่มเครื่องยนต์ในสภาพอากาศเย็น แบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูงจะสามารถสตาร์ทรถในสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดีขึ้น

  • รถกระบะที่ใช้งานหนักหรือเครื่องยนต์ใหญ่ ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มี CCA สูง เพื่อประสิทธิภาพการสตาร์ท

4. ความจุของแบตเตอรี่ (Reserve Capacity - RC)

  • RC คือ ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟเมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ซึ่งมีความสำคัญในการใช้งานเมื่อมีการขับขี่ระยะทางสั้นหรือจอดรถนานๆ

  • เลือกแบตเตอรี่ที่มี RC ที่สูงเพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในการใช้งานในระยะเวลานาน

5. เลือกแบตเตอรี่จากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ

  • ควรเลือกแบตเตอรี่จากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในตลาด เพราะจะมั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่จะมีคุณภาพดี ทนทาน และมีการรับประกัน

  • แบรนด์ที่มีการรับประกันจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและบริการหลังการขาย

6. ตรวจสอบวันผลิตและอายุการใช้งาน

  • แบตเตอรี่ที่มีอายุมากจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ใหม่ ดังนั้น ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีวันผลิตใหม่ หรือยังไม่ผ่านการเก็บรักษานานเกินไป

  • อายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งาน

7. เลือกแบตเตอรี่ที่มีการบำรุงรักษาง่าย

  • แบตเตอรี่แบบ AGM และ Gel จะไม่ต้องเติมน้ำกลั่น และมีการบำรุงรักษาน้อยกว่าประเภทแบตเตอรี่แบบน้ำ

  • หากไม่สะดวกในการดูแลหรือเติมน้ำกลั่น แนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก

8. ราคาและความคุ้มค่า

  • ในการเลือกแบตเตอรี่ ควรพิจารณาราคาตามงบประมาณของคุณ แต่ไม่ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีราคาถูกเกินไป เพราะอาจจะไม่ทนทานและมีประสิทธิภาพน้อย

  • แบตเตอรี่ที่มีราคาสูงอาจมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น เช่น อายุการใช้งานยาวนานขึ้น หรือการทนทานที่ดีขึ้น

9. ตรวจสอบการรับประกัน

  • แบตเตอรี่ที่มีการรับประกันจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพสินค้า

10. ตรวจสอบการติดตั้ง

  • ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้งแบตเตอรี่ เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงการทดสอบความสามารถของแบตเตอรี่หลังการติดตั้ง

 

  • แนะนำแบตเตอรี่รถยนต์กระบะ 5 รุ่นยอดนิยม

การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์กระบะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ต่อไปนี้คือแบตเตอรี่จาก 5 ยี่ห้อยอดนิยมที่เหมาะสำหรับรถยนต์กระบะ พร้อมรายละเอียด

GS Battery รุ่น MFX200
แบตเตอรี่ขนาด 100 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี เช่น อิซูซุ ดีแม็กซ์, โตโยต้า วีโก้, ฟอร์จูนเนอร์ ​

 

GS รุ่น G185
แบตเตอรี่ขนาด 85 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะทั่วไป ​

 

FB Battery รุ่น 80D31L-MF (S-1300L)
แบตเตอรี่ขนาด 80 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะทั่วไป ​

 

3K Battery รุ่น Extra120 จะเป็นแบตไฮบริด

แบตเตอรี่ขนาด 80 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะทั่วไป

 

3K Battery รุ่น MAX2000
แบตเตอรี่ขนาด 75 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะทั่วไป

 

3K Battery รุ่น spider 125 จะเป็นแบตน้ำ
แบตเตอรี่ขนาด 75 แอมป์ เหมาะสำหรับรถกระบะทั่วไป