สาระน่ารู้: แบตเตอรี่รถสำหรับคนขับ Grab, Taxi, Delivery เลือกแบบไหนดีเพราะแบตดี = งานลื่น รายได้ไม่สะดุด

แบตเตอรี่รถสำหรับคนขับ Grab, Taxi, Delivery เลือกแบบไหนดีเพราะแบตดี = งานลื่น รายได้ไม่สะดุด

แบตเตอรี่รถสำหรับคนขับ Grab, Taxi, Delivery เลือกแบบไหนดีเพราะแบตดี = งานลื่น รายได้ไม่สะดุด


คีย์เวิร์ด: แบตเตอรี่รถ Grab,แบตรถสำหรับ Taxi,แบตรถเดลิเวอรี่,เปลี่ยนแบตรถนอกสถานที่,แบตเตอรี่แห้ง ยี่ห้อไหนดี,แบตรถหมดกลางทาง,แบตรถยนต์ทน,แบตเตอรี่ AGM สำหรับรถใช้งานหนัก,อาการแบตรถเสื่อม,แบตเตอรี่รถยนต์ใช้งานนาน
เพราะคนขับ Grab หรือ Taxi ไม่มีเวลารอร้านเปิดหรือขับไปไกลๆ การเลือกผู้ให้บริการแบตเตอรี่ที่มีบริการเปลี่ยนนอกสถานที่ 24 ชม. คือความอุ่นใจที่แท้จริง

แบตเตอรี่รถสำหรับคนขับ Grab, Taxi, Delivery เลือกแบบไหนดีเพราะแบตดี = งานลื่น รายได้ไม่สะดุด

ในยุคที่อาชีพขับ Grab, Taxi หรือบริการ Delivery กลายเป็นหนึ่งในอาชีพยอดนิยม การดูแลรักษารถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะ "แบตเตอรี่รถยนต์" ที่เปรียบเหมือนหัวใจของระบบไฟในรถ หากแบตหมดกลางทาง งานก็หยุด รายได้ก็หาย แล้วควรเลือกแบตเตอรี่แบบไหนถึงจะเหมาะกับสายงานวิ่งรถทั้งวันแบบนี้?

 


 

1. เลือกแบตเตอรี่ชนิดแห้งหรือกึ่งแห้ง

แบตเตอรี่แห้ง (Maintenance Free) หรือแบตกึ่งแห้ง เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ขับ Grab และ Delivery เพราะไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น ดูแลง่าย ไม่ต้องเปิดฝาเช็กบ่อยๆ ทนทานต่อการใช้งานต่อเนื่องตลอดวัน

แนะนำ:

  • แบตเตอรี่แบบ AGM (Absorbent Glass Mat)

  • แบตเตอรี่แบบ EFB (Enhanced Flooded Battery) สำหรับรถที่มีระบบ Start-Stop

 


 

2. เลือกแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานหนัก

ขับทั้งวัน ใช้ไฟทั้งวัน เช่น การเปิดแอร์ ต่ออุปกรณ์ GPS ชาร์จมือถือ หรือใช้งานแอปพลิเคชันหลายตัวพร้อมกัน จึงต้องใช้แบตเตอรี่ที่รองรับการจ่ายไฟอย่างต่อเนื่องได้ดี

คุณสมบัติที่ควรมี:

  • ค่า CCA (Cold Cranking Amps) สูง

  • ความจุ Ah เหมาะสมกับรถรุ่นที่ใช้

  • อายุการใช้งานนาน (ขั้นต่ำ 1.5 - 2 ปีขึ้นไป)

 


 

3. เลือกแบตเตอรี่จากแบรนด์น่าเชื่อถือ

แบรนด์ยอดนิยมสำหรับสายขับมืออาชีพ:

  • GS Battery

  • Panasonic

  • Amaron

  • 3K

  • FB Battery

 


 

4. มีบริการเปลี่ยนแบตนอกสถานที่ – สำคัญมาก!

เพราะคนขับ Grab หรือ Taxi ไม่มีเวลารอร้านเปิดหรือขับไปไกลๆ การเลือกผู้ให้บริการแบตเตอรี่ที่มีบริการเปลี่ยนนอกสถานที่ 24 ชม. คือความอุ่นใจที่แท้จริง

 


 

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • อย่ารอให้แบตหมดก่อนเปลี่ยน! สังเกตอาการ เช่น สตาร์ทยาก ไฟหน้ามัว

  • ตรวจสุขภาพแบตทุก 6 เดือน

  • บันทึกวันติดตั้งและรับประกันไว้ทุกครั้ง